Search

"สาธารณสุขยอมรับ ตัวเลขคนติดเชื้อจะไม่ลดเป็น 0 แต่...

"สาธารณสุขยอมรับ ตัวเลขคนติดเชื้อจะไม่ลดเป็น 0 แต่จะมีการติดเชื้อและระบาดแบบโรคประจำถิ่น"

ไปอ่านเจอข่าวเล็กๆ แต่สำคัญอันนี้ ที่ สธ. เค้ายอมรับแล้วว่า ความผิดพลาดอันหนึ่งก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการควบคุมโรคโควิด-19 คือการเอา "ผู้ติดเชื้อ" ทุกคน มานับว่าเป็น "ผู้ป่วย" และต้องให้เข้าโรงพยาบาลไปกักตัวให้หมดทุกคน

ซึ่งผมเตือนมาตลอด ตั้งแต่แรกเริ่มการระบาดแล้วว่า นั่นจะสร้างปัญหาได้ เพราะคนที่ติดเชื้อโควิด กว่าครึ่ง จะไม่มีอาการป่วยอะไร และที่เหลือนั้น ส่วนใหญ่ก็จะป่วยแค่เล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาล .... พอใช้นโยบายแบบนี้ เตียงก็เต็ม ทั้งในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนาม ระบบสาธารณสุขมันก็รองรับการระบาดหนักๆ ไม่ไหว

ก็ดีใจว่า ตอนนี้ นโยบายเรื่อง "แยกแยะประเภทผู้ติดเชื้อ" น่าจะเข้าที่เข้าทางแล้ว ... ยิ่งมีเครื่องมือสำคัญอย่าง "ชุดตรวจเอทีเค และการทำกักตัวทีบ้าน" มาให้ทุกคนใช้ ไว้ใจประชาชนในการดูแลตนเอง ครอบครัว และสังคม ปัญหาระบบล่มแบบเดือนก่อนๆ นี้ น่าจะไม่เกิดขึ้นอีก แม้จะมีการระบาดระลอกต่อๆ ไปครับ

คำสรุปง่ายๆ คือ ก็ให้ใช้หลักการเดียวกับการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี แหละครับ ไม่ต้องทำให้คนกลัวโรคมากเกินไป อย่าไปทำให้คนเกลียดคนที่ติดเชื้อ แต่หาทางทำให้เราอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อได้ (คิดในแง่ดี ใครติดเชื้อและหายก่อน ก็ย่อมมีภูมิคุ้มกันก่อน นะครับ)

--------------
(รายงานข่าว) เมื่อถามต่อว่าการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ต้องให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 1 หมื่นรายต่อวันหรือไม่ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า การใช้ตัวเลขผู้ติดเชื้อมาพิจารณามาตรการผ่อนคลายนั้น ฝ่ายเกี่ยวข้องจะใช้เป็นตัวแปรน้อยลงตามลำดับ แต่เน้นเรื่องศักยภาพรองรับการเจ็บป่วยเป็นเรื่องสำคัญเพราะตอนนี้เรามีความเข้าใจต่อโรคดีขึ้นตามลำดับ

จากเดิมที่ไม่เข้าใจ จึงนำคนติดเชื้อเข้าไปอยู่ในรพ.ทั้งหมดทำให้รพ.เต็ม ตอนนี้จัดระบบดูแลรักษาดีขึ้นพยายามคัดแยกผู้ป่วย เหมือนกรณีผู้ติดเชื้อเอชไอวี หากไม่ป่วยไม่ต้องเข้า รพ.

โควิดเหมือนกัน หากติดเชื้อไม่ป่วย ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยให้ดูแลตัวเองที่บ้าน ถ้ามีอาการปานกลาง เข้ารักษาในรพ. ซึ่ง สธ.ความคาดหมายว่าไม่เกิน 20% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้รพ.

“สถานการณ์ที่แสดงให้เราเห็นคือที่ กทม.มีการติดเชื้อวันละ 2-3 พันราย ถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับประชากร 10 ล้านคน ปัจจุบันเตียงสีแดงเหลือหลายร้อยเตียง สีเหลืองเหลือหลายพันเตียง ส่วนสีเขียวเหลือเป็นจำนวนมาก เพราะตอนนี้ประชาชนมีความเข้าใจและดูแลตัวเองที่บ้าน

เดิมเรากังวลการดูแลที่บ้านจะทำให้เกิดการติดเชื้อในครอบครัว แต่ปัจจุบันเราเห็นว่าเขาทำได้ดี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริบท กทม.ก็เป็นรูปแบบหนึ่ง ต่างจังหวัดก็เป็นรูปแบบหนึ่ง การผ่อนคลายมาตรการจึงต้องดูว่าระบบสาธารณสุขจะรองรับได้หรือไม่” ปลัดสธ.กล่าว

.... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/294815/?fbclid=IwAR3A67iIUs1Ho6ojeim2ZipfggcVFRcwnrNwl78WnFzrzbGcdOZgabeo6V0


Tags:

About author
ในที่สุด ก็ได้ออกหนังสือ "อ๋อ! มันเป็นอย่างนี้นี่เอง" ที่รวบรวมบทความหลายปี เกี่ยวกับเรื่อง "จริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่" ที่เป็นประเด็นบนโลกออนไลน์และสังคมไทย มาเป็นเล่มเสียที เลยเอามาทำเป็นเพจ ... และก็ตั้งใจว่าต่อไปคงจะเอาเรื่องทำนองนี้มาโพสต์บนเพจนี้ แทนการโพสต์บนเพจเฟซบุ้คส่วนตัว หวังว่าคนจะชอบกันนะครับ .... อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์
รวมเรื่องราว "จริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่?
View all posts